หนุ่มมั่นๆ หิ้ว “กระจก” มาโชว์รายการดัง ผู้รู้โกรธรีบตะโกน “ถือสองมือ!” รู้คุณค่ามีหน้าชา

 หนุ่มหิ้ว “กระจก” มาโชว์รายการดัง เพราะอยากเอาชนะอาจารย์ แต่ผู้เชี่ยวเห็นรีบตะโกนเตือน “ถือสองมือ!” ก่อนเฉลยล้ำค่ามาก

เมื่อมาตรฐานการครองชีพในจีนสูงขึ้น ผู้คนจำนวนมากก็เริ่มสนใจสะสมของโบราณ ซึ่งการสะสมของเก่ายังช่วยปลูกฝังความรู้เกี่ยวกับงานฝีมือแบบดั้งเดิมอีกด้วย สิ่งสำคัญคือหากเป็นของโบราณแท้ๆ มักจะต้องมีมูลค่าสูงมาก อย่างไรก็ตาม การประเมินมูลค่าของโบราณจะต้องอาศัยความชำนาญและทักษะของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

ล่าสุดในรายการ “ประเมินโบราณวัตถุ” สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีน ชายหนุ่มคนหนึ่งนำ “กระจก” มาให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบ อย่างไรก็ดี เขาบอกตั้งแต่เริ่มว่ากระจกชิ้นนี้เป็น “ของสมัยไหน” ทำให้ทุกคนสับสนมากว่า เหตุใดจึงนำสิ่งของสมัยใหม่เข้าร่วมรายการประเมินโบราณวัตถุ?

ชายหนุ่มอธิบายว่า เขาคิดว่ามันเป็นของที่ผลิตขึ้นมาในยุคสมัยนี้ ​​แต่ “อาจารย์” ของเขาคิดว่ามันเป็นของโบราณ เขาศึกษาโบราณวัตถุมาเป็นเวลา 7 ปี และมั่นใจในความสามารถและการตัดสินขอบตนเอง เชื่อว่าอาจารย์มองพลาดไป จึงนำกระจกมาขอให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินแบบชัดๆ

เมื่อพิธีกรได้ยินจึงถามว่า ถ้าทำแบบนั้นไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์เหรอ? แต่ชายหนุ่มยืนยันว่าเขาเพียงต้องการแข่งขันอย่างยุติธรรมกับอาจารย์ที่เป็นรุ่นพี่ของเขา ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงต้องประเมินมูลค่าของกระจกเพื่อที่เขาจะได้คำตอบที่น่าพอใจนำกลับไปยืนยันกับอีกฝ่าย

ผู้เชี่ยวชาญทุกคนพากันมองเข้าไปในกระจกทองสัมฤทธิ์ รวมทั้งมองใบหน้าและรับรู้ถึงทัศนคติของชายหนุ่ม แล้วเผยคำตัดสินที่ทำให้เขาต้อง “พ่ายแพ้” ต่อเจ้านายของตนเอง เพราะกระจกบานนี้จริงๆ แล้วมีอายุมีอายุนับพันปี ย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ถัง มันถูกเรียกว่ากระจกมังกรดอกทานตะวัน

ลวดลายบนกระจกนี้สวยงามมาก ตัวรูปมังกรแกะสลักอย่างเฉียบคม และงานฝีมือก็ซับซ้อนมาก นอกจากนี้ในการระบุอายุของกระจกนี้ต้องดูที่สนิมด้วย มีคราบสนิมเก่าที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี และนี่ก็เป็นหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปได้ว่านี่คือของเก่าอายุพันปี

ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อด้วยว่า ชายหนุ่มมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสมบัติ เพราะตอนที่เขาก้าวขึ้นเวทีชายหนุ่มก็ถือกระจกด้วยมือข้างเดียวเท่านั้น ทำให้มองแล้วรู้สึกขุ่นเคืองจนต้องตะโกนเตือนให้ถือด้วยสองมือ เพราะกระจกมันเปราะบาง ถ้าถือมันด้วยมือข้างเดียว แล้วบังเอิญหล่นลงมาแตก เขาจะสูญเสียสิ่งประดิษฐ์อายุพันปีไป แน่นอนว่านี่เป็นข้อห้ามในร้านขายของเก่า และเหล่าคนที่รักสมบัติโบราณอย่างแท้จริง

หลังจากฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญแล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกเขินอาย แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เข้าใจปัญหา เขาบอกว่าเขาจะศึกษาการประเมินโบราณวัตถุต่อไปด้วยใจที่เปิดกว้าง ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่ใจร้อนด่วนตัดสินเหมือนเช่นตอนนี้อีก สุดท้ายก็ถือกระจกพากลับบ้านด้วยทั้งสองมือ และไม่ลืมขอบคุณผู้เชี่ยวชาญที่กล่าวตักเตือน ทำให้ตระหนักถึงบทเรียนสำหรับตัวเขาเอง

การรวบรวมหรือประเมินโบราณวัตถุไม่ใช่เรื่องง่ายที่สามารถเรียนรู้ได้ภายในวันหรือสองวัน เป็นกระบวนการแห่งการสำรวจและเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ ทัศนคติของเขาที่มีต่ออาจารย์ของตนเอง แม่จะไม่ได้รับตักเตือนโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่ชายหนุ่มก็ตระหนักถึงเรื่องนั้นมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังหวังว่าเขาจะเป็นนักสะสมหรือผู้ประเมินโบราณวัตถุที่ดีได้ในอนาคต

ความเห็นถูกปิด