สาวหลอกกินฟรี โวยร้านทำอาหารสกปรก เช็กวงจรปิดเห็นหลักฐานช็อก ล้วงกระโปรงตัวเอง!!!

ลูกค้าบอกว่ามีเส้นผมอยู่ในจาน เจ้าของร้านตรวจสอบกล้องวงจรปิด เห็นหลักฐานชัดๆ ยิ่งตกใจ ที่แท้ล้วงมือเข้าไปในกระโปรง จงใจใส่วัตถุแปลกปลอมลงในจาน แล้วกล่าวโทษร้าน!

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านอาหารในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน สาวรายหนึ่งแจ้งว่าร้านอาหารสกปรกและไม่ปลอดภัย หลังพบ “เส้นผม” ในอาหาร อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าของร้านตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ความจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

ตามที่เจ้าของร้านบอก วันนั้นลูกค้ารายดังกล่าวเดินเข้ามาและสั่งอาหาร 2-3 อย่างท่าทางปกติเหมือนคนอื่นๆ แต่เพียงครู่เดียวหลังจากเสิร์ฟอาหาร กลับแสดงท่าทางโกรธจัดขึ้นมาทันที ร้องเรียกหาเจ้าของร้านเพื่อแจ้งว่าเธอพบเส้นผมในอาหาร กล่าวโทษร้านอาหารว่าทำอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ

ในฐานะพนักงานบริการที่เผชิญกับสถานการณ์นี้ เจ้าของร้านทำได้เพียงขอโทษอย่างรวดเร็ว ยอมรับผิดตามความรับผิดชอบของตัวเอง แล้วบอกว่าจะจ่ายค่าอาหารจานใหม่ให้เธอ แต่หลังจากเสิร์ฟจานใหม่ให้ไม่นาน หญิงสาวรายเดิมก็ยังคงบ่นด้วยความหงุดหงิด ว่าจานใบใหม่ยังมีเส้นผมอยู่เหมือนกัน ในที่สุดเจ้าของร้านก็ตัดสินใจให้หญิงสาวกินฟรีในวันนั้น เพื่อเป็นการขอโทษอย่างจริงใจ

เหมือนเรื่องราวทุกอย่างจะจบลงเพียงเท่านั้น แต่วันต่อมาเมื่อเจ้าของร้านตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพลูกค้าสาวรายดังกล่าวล้วงมือเข้าไปในกระโปรงของเธอ แล้วจงใจทำบางอย่างหล่นที่คาดว่าเป็น “เส้นขน” ลงไปในจานอาหารสองสามจานแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพื่อจัดฉากตำหนิร้านแล้วกินฟรี อีกทั้ง เจ้าของร้านยังยืนยันว่าเชฟของร้านทั้งหมดเป็นผู้ชาย ดังนั้น ไม่มีใครมีเส้นผมเหมือนที่ปรากฏในอาหารของหญิงสาวแน่นอน

สุดท้ายเจ้าของร้านอาหารก็ตัดสินใจแจ้งความ ซึ่งตำรวจเห็นภาพแล้วก็ยืนยันทันทีว่าหญิงสาวแซ่เจืองรายนี้ ใช้วิธีเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อกินฟรีที่ร้านอาหารต่างๆ และบางครั้งยังได้รับเงินค่าชดเชยกลับบ้านไปด้วย ซึ่งตำรวจเมืองต้าเหลียนกำลังสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่

ทางด้านชาวเน็ตจีนก็วิจารณ์การกระทำของหญิงสาวอย่างรุนแรง คนส่วนใหญ่คิดว่าพฤติกรรมเธอเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ไม่ใช่แค่การโกงเพื่อหวังประโยชน์ต่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้อื่นด้วย นี่ไม่ใช่แค่การประพฤติทุจริตทางศีลธรรม และสะท้อนถึงความซื่อสัตย์ในชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นอุบายฉ้อฉลที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายด้วย ดังนั้น จึงควรได้รับการลงโทษอย่างเหมาะสม

ความเห็นถูกปิด