วินาศสันตะโร รถเมล์สาย 40 พุ่งชน 18 คัน หน้าจุฬาฯ คนขับเหยียบคันเร่งแทนเบรก

วินาศสันตะโร รถเมล์สาย 40 พุ่งชน 18 คัน หน้าจุฬาฯ คนขับยอมรับเผลอเหยียบคันเร่งแทนเบรก

เมื่อเวลา 18.35 น. วันที่ 1 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนพญาไทขาออก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุถนนพญาไท ขาออก ช่วงหน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งหน้ามาบุญครอง พบรถประจำทางปรับอากาศ สาย 40 หมทยเลขทะเบียน 16-7612 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างสายใต้ใหม่-เอกมัย เสียหลักพุ่งชนรถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มก 3503 ก่อนจะไหลชนรถที่จอดติดไฟแดงคันอื่นอีก มำให้มีรถยนต์แบะรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายกว่า 20 คัน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เบื้องต้นนำตัวผู้บาดเจ็บส่งไปโรงพยาบาลใกล้เคียง อาทิ รพ.เทพธารินทร์ , รพ.หัวเฉียว และ รพ. IMS สีลม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุบัติเหตุดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงเย็นวันศุกร์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน เร่งระบายรถและคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

นายอัมพร อายุ 57 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ที่ถูกชนเป็นคันแรก เล่าว่า ระหว่างที่จอดติดไฟแดงตนมองกระจกหลังเป็นรถ ปอ.40 ที่ตอนแรกจอดนิ่งอยู่ จู่ๆ ก็ไหลมาชนรถตน ก่อนที่จะไหลชนกันต่อๆ กัน หลังตั้งสติได้ตนจึงลงรถไปสำรวจความเสียหาย โดยได้คุยกับคนขับรถ ปอ.40 คนขับบอกว่าเหยียบเบรกแต่เบรกค้าง แต่ตนคิดว่าคนขับน่าจะเหยียบเบรกแต่เหยียบผิดไปเหยียบคันเร่งมากกว่า

ต่อมา บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด  ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า จากกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารปรับอากาศ สาย 40 หมายเลขปฎิรูป 4-39 (44) เกิดเหตุชนบริเวณถนนพญาไท ขาออกจากสามย่าน มุ่งหน้าแยกปทุมวัน จนส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 4 ราย อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุขึ้นทางบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที เพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมประสานประกันภัยเข้าดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขณะเดียวกันทางบริษัท ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอแสดงความรับผิดชอบ ดูแลค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบทุกรายอย่างเต็มที่

ด้านสาเหตุของการชนครั้งนี้ ทางบริษัทได้ตรวจสอบหลักฐาน พร้อมสอบถามข้อมูลกับพนักงานขับรถวัย 60 ปี ยอมรับด้วยตนเองว่า เผลอเหยียบคันเร่ง แทนการเหยียบเบรกรถ ทำให้รถเกิดพุ่งไปกระทบกับรถด้านหน้า จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยตัวรถนั้นไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางบริษัทฯ จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด และลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงระบบการให้บริการที่ดีขึ้น ด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

สำหรับข้อมูลล่าสุด ทราบว่า รถเสียหายทั้งสิ้น 20 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 18 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน 

ความเห็นถูกปิด