ปธ.หอการค้าโคราช ห่วงรัฐใช้งบมหาศาล แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น ไม่คุ้มค่า จี้คิดรอบคอบ
ประธานหอการค้าโคราช ห่วงรัฐใช้งบมหาศาล แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท หวั่นไม่คุ้มค่า จี้รัฐวางแผนอย่างรอบคอบ
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยสรุปคือจะเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวน 600,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 บาท ครอบคลุม 50 ล้านคน และอีก 100,000 ล้านบาท ในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ โดยรัฐบาลจะมอบสิทธิ์ใช้จ่ายให้กับประชาชนที่เข้าเกณฑ์ตาม 3 เงื่อนไข คือ 1.อายุ 16 ปี ขึ้นไป 2.มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และ 3.มีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท โดยทั้งหมดจะต้องผ่านกระบวนการตามกฎหมาย และมีมติคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ก่อนสรุปอีกครั้งนั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2566) นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาลนั้น ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งรัฐบาลก็คาดหวังว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้เงินหมุนเวียนกระจายไปทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี และภาคเอกชนก็คาดหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน คืออยากให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างน้อย 3-4 รอบ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วง
เนื่องจากโครงการนี้ต้องใช้เงินงบประมาณสูงมาก จึงอยากฝากให้รัฐบาลมีการวางแผนในการหาเงินก้อนนี้อย่างรอบคอบ รวมทั้งมีการวางแผนพัฒนาต่อยอดจากการใช้เงินจำนวนนี้อย่างคุ้มค่า ส่วนเงื่อนไขต่างๆ ที่รัฐบาลระบุไว้ ก็อาจจะเป็นประเด็นที่ต้องมาถกเถียงอีกแน่นอน แต่ช่องทางการจ่ายเงินให้กับประชาชน มีแพลตฟอร์มที่หลากหลายอยู่แล้ว โดยเฉพาะแพลตฟอร์มเป๋าตังค์ ซึ่งเรามีอยู่แล้ว ซึ่งตนมองว่ารัฐบาลน่าจะบริหารจัดการได้อย่างดีแน่นอน.
ความเห็นถูกปิด