บิ๊กโจ๊ก ลุยเอง คดีป้าบัวผัน เหยื่อ 5 โจ๋ทรชน สอบพิรุธเบื้องหลังการสารภาพของลุกเปี๊ยก

บิ๊กโจ๊ก ลุยเอง คดีป้าบัวผัน สอบพิรุธใครอยู่เบื้องหลังการสารภาพของลุกเปี๊ยก ลั่น ตำรวจที่เป็นพ่อเด็ก ถ้ามีเอี่ยวโทษหนัก 2 เท่า

(16 ม.ค.66) ที่สโมสรตํารวจ ถ.วิภาดีรังสิต นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พาพี่สาวของ ป้าบัวผัน เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี รุมทําร้ายร่างกายก่อนนําไปฆ่าบีบคอในนํ้าจนเสียชีวิต    

โดย กัน จอมพลัง กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเยาวชนและมีลูกชายของนายตํารวจในพื้นที่รวมอยู่ด้วย เกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะปัจจุบันลุงเปี๊ยกถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจําหลังพบกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่าลุงเปี๊ยกไม่ใช่ผู้ต้องหา จึงทําให้เกิดความสงสัยหลายอย่าง อาทิ เหตุใดลุงเปี๊ยกต้องยอมรับผิดทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทําและการเล่าเหตุการณ์เป็นฉากๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่เล่าได้ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เหมือนกับว่ามีผู้สร้างเรื่องให้ลุงเปี๊ยกกลายเป็นแพะรับบาปในคดีนี้ อีกทั้งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าลุงเปี๊ยกอยู่ที่ไหนและอยู่กับใคร  

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดความไม่มั่นใจในการทํางานของเจ้าหน้าที่ตํารวจในพื้นที่และเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุมีลูกชายของตํารวจในพื้นที่ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นสามารถจับกุมเยาวชนทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายเพราะถือเป็นการกระทําที่เลวร้ายและโหดเหี้ยม

ส่วนสาเหตุที่ลุงเปี๊ยกรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุนั้นอาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลังคอยจัดฉากหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ต้องขอตรวจสอบอย่างละเอียด  

สําหรับกรณีที่มีลูกชายของนายตํารวจในพื้นที่ร่วมก่อเหตุด้วยนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถตอบได้ว่าผู้เป็นพ่อจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่หากตรวจสอบพบการกระทําความผิดก็จะต้องดําเนินคดีตามกฎหมายยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจต้องโดนถึง 2 เท่า เพราะมีโทษทางวินัยระบุไว้ชัดเจน  

ขณะที่พี่สาวของป้าบัวผัน กล่าวว่า กังวลที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เสียใจและรับไม่ได้หลังเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีที่พี่สาวถูกรุมทําร้ายอย่างโหดเหี้ยม อยากขอให้ตํารวจดําเนินคดีจนถึงที่สุดและหาความจริงในเรื่องนี้ว่ามีตํารวจหรือใครเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่  

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ช่วงบ่ายวันนี้ตนเองจะนําทีมสืบสวนส่วนกลางลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสืบสวนหาความจริงให้ปรากฎและจะเรียกชุดทําคดีในพื้นที่มาพูดคุยพร้อมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบดูสํานวนคดีทั้งหมดรวมถึงลุงเปี๊ยก ซึ่งถือเป็นพยานสําคัญในคดีนี้ ที่ญาติบอกไม่สามารถติดต่อได้หลังออกจากเรือนจํา แต่ไม่ว่าลุงเปี๊ยกจะอยู่ที่ไหนเมื่อตนเองไปถึงเจ้าหน้าที่ตํารวจที่รับผิดชอบคดีจะต้องนําตัวลุงเปี๊ยกเข้ามาพบและจะประสานไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อให้รับตัวลุงเปี๊ยกไปอยู่ในการดูแลคุ้มครองต่อไป

ส่วนกรณีการแก้ไขกฎหมายการลดอายุของเด็กที่กระทำความผิดทางอาญานั้นเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายซึ่งจะต้องมีการประชุมหลายฝ่ายถือเป็นการแก้ไขระยะยาว ส่วนเรื่องระยะสั้นคือคดีนี้ที่จะต้องทําให้เด็ดขาดและยุติธรรมมากที่สุด  

ความเห็นถูกปิด