ทหารหน่วยซีลช่วยสาวโดนทำร้าย ถูกยิง 2 นัดแต่หลบทัน ยิงสวนทะลุอัณฑะ อีกฝ่ายตาย

ทหารหน่วยซีลช่วยผู้หญิงโดนแฟนเก่าทำร้าย ถูกยิง 2 นัดแต่หลบทัน ยิงสวนทะลุอัณฑะ อีกฝ่ายตาย

เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 1 ก.ค.66 ร.ต.อ.ฐานิต ที่ภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ  จ.ชลบุรี  ได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ  ภายในซอยมั่นแก้ว  ม.4 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย ทราบชื่อนายชวลิต อายุ 38 ปี ถูกอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยิงเข้าบริเวณท้อง จำนวน 1 นัด และ อัณฑะ 1 นัด รวมจำนวน 2 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว พันจ่าเอก ทนงศักดิ์ อายุ 48 ปี ทหารเรือ สังกัดกองเรือยุทธการ พร้อมอาวุธปืน Smith &Wesson  ขนาด 9 มม พร้อมเครื่องกระสุน และยังตรวจพบอาวุธปืนของผู้บาดเจ็บ เป็นอาวุธดัดแปลง ขนาด .380  มม.พร้อมเครื่องกระสุนปืน  โดยในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.  จำนวน 2 ปลอก และขนาด .380 จำนวน 2 ปลอก ใกล้กัน พบ รถกระบะ โตโยต้า รีโว่ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน 9656 ระยอง ในสภาพกระจกซ้ายข้างคนขับถูกอาวุธปืนยิงจนแตก โดยมี นางสาวชณัศฎา อายุ 38 ปี คนขับอยู่ในสภาพอาการตกใจ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากสอบสวน นางสาวชณัศฎา อายุ 38 ปี ทราบว่า ขณะตนขับกำลังขับรถกระบะกลับบ้านภายในตำบลช่องแสมสาร นายชวลิต อายุ 38 ปี คนเจ็บ ซึ่งเป็นแฟนเก่า ซึ่งเคยออกตามหาตนเพื่อจะมาง้อนานนับเดือน และตามราวีไม่เลิก ซึ่งตนเคยได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว โดยวันนี้ได้ขับรถมาจอดดักรอบริเวณทางเข้าบ้าน ตนเห็นจึงได้ขับรถกระบะถอยเพื่อจะหลบหนี แต่คนเจ็บได้นำรถมาจอดปิดบริเวณหน้ารถของตน เพื่อไม่ให้ตนขับหนีไปไหน โดยมาด้วยกัน 2 คน พร้อมเพื่อนเขา ก่อนที่เขาจะเดินลงมา โดยเพื่อนได้รออยู่ที่รถ ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้ามาหาที่รถและยิงใส่ที่รถจนกระจกแตก ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วลากตนลงไปซ้อม

ก่อนที่ พันจ่าเอก ทนงศักดิ์ ได้วิ่งมาช่วยโดยดึงตัวคนเจ็บออกมา ก่อนที่คนเจ็บจะหันไปยิงพันจ่าเอก ทนงศักดิ์ จำนวน 2 นัด แต่โชคดีเขาหลบทัน ก่อนที่เขาจะชักปืนยิงป้องกันตัว บริเวณช่วงล่างไป 2 นัด จนทำให้นายชวลิต ล้มลงได้รับบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนที่มาด้วยหลังเห็นเหตุการณ์ได้รีบขับรถหลบหนีไป

สอบถาม พันจ่าเอก ทนงศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เห็นน้องผู้หญิงรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย  หลังหน้านี้เห็นผู้ชายคนเจ็บมาต่อว่าและด่าทอถึงหน้าบ้าน โดยวันนี้น้องผู้หญิงได้โทรศัพท์มาบอกให้ช่วยมาดูหน่อยกลัวมีคนมาดักรอจะทำร้าย จึงได้ออกไปดู ก่อนที่คนเจ็บจะลงมาทำร้ายร่างกายผู้หญิงตนจึงเข้าไปดึงตัวคนเจ็บออกมา ก่อนที่จะหันมายิงตน ประมาณ 2-3 นัด ตนจึงได้ชักปืนยิงสวนกลับไปบริเวณช่วงล่างลำตัว เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุก่อนจะนำตัวผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายและผู้ก่อเหตุมาสอบสวน อย่างละเอียดอีกครั้ง และจะได้มีการไปสวบสวนผู้บาดเจ็บ ถึงสาเหตุการยิงกัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ  05.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค. 66 ได้รับแจ้งจาก โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ  ว่า นายชวลิต  อายุ 38 ปี เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังสืบสวนติดตาม หาเพื่อนของนายชวลิต อายุ 38 ปี ที่มาด้วยกันและอยู่ในที่เกิดเหตุ พอเห็นนายชวลิตถูกยิงล้มลง ก็ได้ขับรถหลบหนีออกไปทันที

ส่วนพันจ่าเอก ทนงศักดิ์ อายุ 48 ปี ทหารเรือ สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทหารเรือ กองเรือยุทธการ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 

 ส่วนกรณียิงปืนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตต่อมานั้นอยู่ในระหว่างการสอบสวนพยานและจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วน นางสาวชณัศฎา อายุ 38 ปี  นั้นทราบว่า รู้จักนับถือ พันจ่าเอก ทนงศักดิ์  ในฐานะพี่ชาย โดยหลังถูกนายชวลิตตามมาราวี และบุกจะเข้ามาทำร้ายหลายรอบ จึงได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ จนวันนี้ตนคิดว่าจะถูกดักทำร้าย ขณะเข้าบ้าน จึงโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือ พันจ่าเอก ทนงศักดิ์  ก่อนที่คนตายจะขับรถมาปิดหน้ารถของผู้หญิงและลงมายิงใส่รถ ก่อนจะกระชากลงมาทำร้าย ก่อนที่ พันจ่าเอก ทนงศักดิ์ จะลงมาช่วยเหลือและถูกยิงใส่แต่หลบทัน และได้ยิงกลับไปจนทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ความเห็นถูกปิด