“ชาดา” ฉุนกึก! สส.โรม ยกภาพคู่กลุ่ม ศปปส. ลุกกร้าว อยู่เบื้องหลังจริงมันส์กว่านี้!
“ชาดา ” โมโห “โรม” ยกภาพ คู่กลุ่ม ศปปส.อ้างปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินจริง ถามจะสร้างความปลอดภัยได้อย่างไร เมื่อรัฐสร้างผีขึ้นมาเอง รีบลุกโต้เสียงสั่น ถ้าอยู่เบื้องหลังจริงมันกว่านี้ ลั่นอย่ามาเล่นใต้ดิน ยืนยันประเทศมีขบวนการล้มเจ้า ไล่รับไม่ได้ไปอยู่ประเทศอื่น
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายทบทวนระเบียบ แผน และมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้มีความเหมาะสมและทันสมัย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า หลังจากมีข่าวการขวางขบวนเสด็จออกมาต้องยอมรับว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตอนนี้ได้เลยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ตนเข้าใจดีว่า ทุกคนล้วนมีความรู้สึก กับเรื่องนี้ไปต่างๆนานา แต่หากไม่พิจารณาเรื่องนี้อย่างมีวุฒิภาวะด้วยสติที่มั่นคง สิ่งที่ทุกคนกำลังสร้างคือบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ส่งผลให้เกิด การทำร้ายร่างกายกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อหน้าตำรวจ และสื่อมวลชนรวมถึงภาระกำนัน กลางเมืองหลวงที่มีคนผ่านไปผ่านมา
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ก็มีตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างใจเย็น ทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลายวิธีการควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมอย่างมีวุฒิภาวะ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เชื่อว่าหากลุ่มและเคลื่อนไหวมีเจตนาทำสิ่งที่มากกว่าการบีบแตร เจ้าหนี้ตำรวจรักษาความปลอดภัยอยู่คงจะมีมาตรการที่มากขึ้น ซึ่งตามพระราชบัญญัติรักษาความปลอดภัยพ.ศ 2560 มาตร5 ประกอบมาตรา 7 ได้ให้อำนาจอย่างกว้างขวางและเพียงพอที่จะรักษาความปลอดภัยได้อยู่แล้ว ผู้มีอำนาจสามารถใช้ดุลยพินิจปรับเปลี่ยนมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนั้นจึงอยากขอให้ทุกคนมีสติ หากสิ่งที่นักเคลื่อนไหวทำมีความผิดจริงตามกฎหมายตนเข้าใจ ไปหาจะมีการปรับใช้กฎหมายสิ่งสำคัญคือต้องโปร่งใส และสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อยากถามผู้มีอำนาจว่า ความผิดที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับกฎหมายที่จะปรับใช้หรือไม่ มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นความขัดแย้งใหม่และลุกลามบานปลายจนไม่จบสิ้น ปัญหาเดิมยังไม่แก้ปัญหาใหม่กำลังจะมา วันนี้ตนรู้สึกผิดหวังกับท่าทีของนายกรัฐมนตรี
ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดีของบ้านเมืองกับการบอกว่า ตนเองและคณะรัฐมนตรีไม่สนับสนุนความรุนแรง และขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องสถาบัน แต่กลับไม่มีการบอกให้ บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงเลย แบบนี้จะกลายเป็นการเขียนเช็คเปล่าให้กับผู้ที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่าที่ผ่านมากลุ่มละเคลื่อนไหวได้พยายามใช้วิธี อย่างสงบในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยการตั้งคำถามและกิจกรรมติดสติ๊กเกอร์ ซึ่งอาจทำให้คนบางคนปวดร้าวในจิตใจ แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำร้ายใคร
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยทั้งชาติ ได้ประท้วงนายรังสิมันต์ อภิปรายเกินกว่าญัตติที่เสนอ นายรังสิมันต์จึงได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนต้องการบอกว่าการรักษาความปลอดภัยต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและที่สำคัญคือต้องมีสติ หากไม่มีการพูดถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและไม่มีสติจะสามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร
ก่อนจะอภิปรายต่อว่า กลุ่มศปปส. มีการโพสต์ข้อความ ปลุกปั่นในโซเชียลมีเดีย ว่าจะเชือดไก่ให้ลิงดู หรือกลุ่มอาชีวะราชภักดี ที่ขู่จะจัดการ สายน้ำ ตามวิถีอาชีวะปะทะก่อนค่อยคุย ซึ่งในช่วงนี้มีการใช้รูป ของกลุ่มศปปส. ซึ่งถ่ายคู่กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยไม่มีการเบลอหน้า นายเกชาจึงได้ลุกขึ้นประท่วงอีกครั้งว่านายรังสิมันต์ อภิปรายเกินเลยญัตติ
ก่อนที่นายรังสิมันต์ จะอภิปรายต่อว่า มีอีกหลายข้อความที่ถูกกล่าวขึ้นโดยบุคคลสำคัญ แม้กระทั่งนายชาดา พูดถึงการเนรคุณแผ่นดิน มีการปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินกว่าความเป็นจริงมาก และทำให้คนทั้งสังคมไม่รู้สึกปลอดภัย รัฐจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร ในเมื่อสุดท้ายผีที่สร้างขึ้นมามันมาจากพวกท่านเอง ถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์บานไปเรื่อยๆ หากไม่มีการดึงสติแล้วคำขู่เกิดขึ้นจริงใครจะรับผิดชอบ และสุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรง แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ควรจะหาว่ารัฐบาล เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ขออย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย
ทำให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกขึ้นใช้สิทธิ์ประท้วงนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชี รายชื่อพรรคก้าวไกล ว่าเมื่อสักครู่มีสมาชิกท่านหนึ่งนำรูปของตนเองมาอภิปราย ส่อให้เกิดเจตนารมณ์ที่ไม่ดี ซึ่งการอภิปรายของตนเองครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในวันเลือกนายกรัฐมนตรีและมีประชาชนขอถ่ายรูปกับตนเป็นล้านคน และการที่ตนเองจะร่วมกิจกรรมที่ดีงามไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด ซึ่งผู้ที่อภิปรายส่อจตนาไม่ดี ไม่ดีอย่างมาก สร้างความแตกแยก และกำลังจะนำตนไปสู่ในสิ่งที่ได้ถูกต้อง สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน
ซึ่งวันนี้ส่วนตัวไม่คิดจะอภิปราย แต่ตนเสียหาย เป็นการชี้จูงทางความคิดที่ท่านกำลังให้เด็กทำอยู่ ที่พวกท่านกำลังทำอยู่ มันคือความรู้สึกของตนอกตัญญู การกระทำอย่างนี้ มันคือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง มันไม่ใช้ความรู้สึกของคนที่ดี มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่การอธิบายเชิงสร้างสรรค์ ปากบอกต้องการความสงบให้ตั้งอยู่ตรงกลาง แต่พฤติกรรมไม่ใช่ ซึ่งวันนี้ตนฟังการอภิปรายตลอดเวลา และการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่เสียหายมาก
ซึ่งประธานในที่ประชุมอนุญาตได้อย่างไร ให้มีการเสนอแบบนี้ได้อย่างไร แล้วถ้าตนจะเสนอแบบนี้บ้างจะมีปัญหาหรือไม่ ตนไม่อยากพูดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่อยากพูดซึ่งไม่เกี่ยวกับญัตติด้วย และประธานการอนุญาตได้อย่างไร ซึ่งประธานต้องมาขอโทษตนเอง ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ถูกต้องและไม่เป็นกลาง แต่ตนเองจะฟ้องนำรูปของตนเองมาอภิปราย เพราะสิ่งที่ท่านทำพยายามเรียกร้องให้ถูกกฎหมาย และให้ตั้งสติ ตัวฟังแล้วรู้สึกดี ซึ่งญัตตินี้เป็นเรื่องของการอารักษ์ขาขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน
แต่กำลังเอาเรื่องนอกประเด็นผลของการกระทำเด็กหรือใครก็ตามกี่ครั้งแล้วที่ทำผิดกฎหมาย การแสดงออกด้วยหัวใจคนไทยไม่มีปัญหา แต่มันมีขบวนการในประเทศนี้พี่จะล้มล้างที่จะบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าทำกับผมแบบนี้ พูดกับตนแบบนี้ เดี๋ยวตนจะพูดให้หมด ยืนยันว่า วันนี้ไม่ได้อยากจะพูดแต่หัวใจความรักชาติมันเต็มเปี่ยม สิ่งที่ท่านทำไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ ปากบอกว่าพัฒนา แต่สิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้เลวทรามมากในความรู้สึกผม ซึ่งประธานปล่อยภาพนี้ออกมาได้อย่างไร ใครอนุญาต ตนไม่ว่าสมาชิกแต่ขอถามประธาน การอภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง
อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า ตนยืนยันว่า มี ซึ่งตนพร้อมจะถ่ายรูปกับคนทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไรผมไม่รู้ผมไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง ต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดดูดีแต่ปฏิบัติไม่ดี
“เดี๋ยวผมจะลุกโต้ทุกคนที่พูด อย่ามาขัดแย้งกับผม อย่ามาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่ามาเล่นใต้ดินกับผม แล้วอย่ามาเรียกร้องไม่ให้คนอื่นเล่นใต้ดิน ประธานต้องบอกผมว่าใครเป็นคนอนุญาต ประธานสภาหรือเจ้าหน้าที่ มีวิจารณญาณไหม มีสมองไหม ตนคิดว่าเป็นกระบวนการที่ไม่สร้างสรรค์ ตนเข้าใจความคิดเห็นมีความแตกต่าง เข้าใจว่าความแค้นของท่านในวันที่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ผมไม่เคยสร้างความขัดแย้งกับพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคนความคิดเห็นต่างก็ไม่เป็นไรแต่อย่ามาทำมือถือสากปากถือศีล”
ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ในการประชุมชี้แจงว่า ภาพที่นำมาเสนอ ส่วนตัวไม่ได้ดู หากเกิดมีการพาดพิง คุณจะหาคำตอบในเรื่องนี้ว่าอนุญาตได้อย่างไร พร้อมขอนายรังสิมันต์ โรม อย่าตอบโต้ และให้โอกาสนายชาดา ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เป็นตามที่มีการนำเสนอ และอยากให้การประชุมนี้เป็นการแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมาตอบโต้กันไปมา เพราะจะทำให้ขยายความขัดแย้งไปมากขึ้น พร้อมขอคำขอความร่วมมือสมาชิกอภิปรายอย่างสร้างสรรค์และตรงประเด็น ให้มีแนวทางที่รอบคอบกว่านี้
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ชี้แจงว่าภาพที่นำเสนอนั้น ได้มีการยื่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างถูกต้องและเข้าใจว่าจะมีการพิจารณาตามระบบซึ่งเป็นอำนาจของประธานเป็นผู้พิจารณาคนสุดท้าย ซึ่งโดยทั่วไปการขึ้นรูปรัฐมนตรี สามารถทำได้อยู่แล้ว รออยู่ในที่ประชุม พร้อมยังขอให้นายชาดา ใจเย็นๆ เพราะการขึ้นรูปไม่ได้ปรักปรำว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หรือปรักปรำนายชาดา เพิ่มเติม
ทำให้นายชาดาโต้กลับในทันทีว่า ไม่ได้ปรักปรำเพิ่มเติม หมายความว่าปรักปรำมาก่อนแล้วใช่หรือไม่ แต่นายรังสิมันต์ โรม พยายามชี้แจงว่า ข้อความที่ขึ้นในรูปไม่ได้เป็นประโยคของนายชาดา แต่เป็นข้อความของผู้ที่ก่อความรุนแรง แล้วเขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ความเป็นจริงอาจจะไม่มีใครอยู่เบื้องหลังก็ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ว่านักการเมืองอย่างเราๆ ถูกโยงไปยังกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ตลอดเวลา ทั้งที่การกระทำอาจไม่ถึงขนาดนั้น จึงอยากให้มีสติ เพราะหลายคนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีสติกันหน่อย เป็นหลัก เป็นฐานให้กับบ้านเมือง
ความเห็นถูกปิด